ไฟ

สัญลักษณ์คบเพลิงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของชาวยูนิทาเรียนรอบโลก กลุ่มผู้นับถือยูนิทาเรียนและยูนิทาเรียนยูนิเวอแซลลืสต์หลายกลุ่มรอบโลกใช้การจุดไฟในคบเพลิงเป็นสัญญาณการเริ่มต้นพิธีกรรมทางศาสนาของพวกเขา อย่างไรก็ตามแม้ว่าคบเพลิงจะเป็นสัญลักษณ์ของยูนิทาเรียน ทว่าการใช้ไฟเป็นสัญลักษณ์นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

นับแต่โบราณกาลมา มนุษย์ชาติมีความสัมพันธ์กับไฟมาโดยตลอด มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับไฟและใช้ประโยชน์จากไฟเช่นไร มนุษย์ในปัจจุบันก็เข่นนั้น ไฟกลายมาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของทุกคน เราใช้ไฟในการทำอาหาร, ในการการผลิตสิ่งต่างๆ, ในการสร้างความอบอุ่นและความปลอดภัย, แม้แต่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ประโยชน์ของไฟนั้นมากมายเกินกว่าจะกล่าวได้หมดในที่อันจำกัด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ไฟจะมาฐานะสำคัญในด้านความเชื่อและศาสนาของมนุษย์ชาติเสมอมา ศาสนาแพแกนจำนวนมากมีเทพเจ้าที่ใช้ไฟเป็นสัญลักษณ์ ศาสนามากมายรวมถึงพุทธ,คริสต์,อิสลาม,ยิวล้วนแล้วแต่มีการใช้ไฟเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการทางศาสนาของตน นับได้ว่าไฟนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่สากลที่สุดสัญลักษณ์หนึ่งเท่าที่เคยมีมา

แต่อะไรคือความหมายที่แท้จริงของไฟ? ความหมายของไฟนั้นสามารถจะมีได้หลากหลายความหมายและแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล สำหรับบางคนนั้นไฟเป็นสัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง ความหวัง ความกล้าหาญ เป็นตัวแทนแห่งความดีงามทั้งหลาย สำหรับบางคนไฟเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายและการทำลายล้างที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ บางครั้งไฟก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความลีกลับและความศักดิสิทธ์ บางครั้งไฟก็เป็นสัญลักษณ์แห่งบาปและความชั่วร้าย สำหรับบางคนแล้วไฟเป็นสัญลักษณ์ของพลังของธรรมชาติ แหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล สำหรับบางคนแล้วไฟเป็นเพียงแค่ผลผลิตจากปฏิกริยาการสันดาปเท่านั้น ไม่มีความหมายซ้อนเร้นแต่อย่างใด

แล้วอะไรคือความหมายของไฟต่อชาวยูนิทาเรียน? บางคนกล่าวว่าไฟที่เราจุดนั้นเป็นเปลวเพลิงแห่งความจริงที่ไม่มีวันดับมอดลง บ้างก็กล่าวว่าไฟที่เราจุดนั้นเป็นแปลวเพลิงแห่งความรักที่จะส่งแสงสว่างเข้าไปในใจของทุกคน บ้างก็ว่านี่คือไฟแห่งปัญญาที่จะส่องสว่างนำทางเราไปข้างหน้า เช่นเคย สำหรับชาวยูนิทาเรียนแล้ว ความหมายและความสำคัญของไฟนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเชื่อว่าทุกความหมายของไฟนั้นแล้วแล้วแต่เป็นจริงเท่าๆกัน และเมื่อไรก็ตามที่เราจุดไฟในคบเพลิงนั้น เราจะพบว่าบ่อยๆแล้วสรรพสิ่งไม่ได้มีแค่เพียงความหมายเดียว